L'Arc de triomphe et la place de l'Étoile
ปัจจุบันเรียกว่า จตุรัสชาร์ลเดอโกล la place
Charles-de-Gaulle ปรับปรุงใหม่ในยุคจักรวรรดิที่2 จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 โดยมอบหมายให้บารอนโอสมนาออกแบบวางผังใหม่แบบใหม่ มีถนน 12 สายมาบรรจบที่วงเวียนมองกลางคืนจะเหมือนดวงดาวจึงเรียกว่าย่านเอตวล Étoile ถนนสายหลักและงดงามที่สุดชื่อ l'avenue des Champs-Élysées ลาเวอนู
เดฌ็องเซลิเซ่ ที่ใช้เป็นที่สวนสนามของทหารและตำรวจครั้งแรกในสมัยจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ถนนต่างๆอีก 11 สายตั้งชื่อตามบุคคลสำคัญ นายพล เช่น Foch Hoch
Marceau Mac Mahon Carnot Victor Hugo Kléber เป็นต้น
ประตูชัยนี้สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ใช้บันได ทุกปีจะมีการสวนสนามในวันชาติฝรั่งเศสวันที่ 14 กรกฎาคม สองข้างถนนที่มีต้นไม้ จะมีห้างร้านขายของทั้งแพงมากและปานกลาง เช่น Louis Vuitton Zara Naf Naf บริษัทขายรถยนต์หรู โรงภาพยนตร์ ร้านอาหารร้านกาแฟ ร้านแม๊กโดนัล เคเอฟซี
ร้านลาดูเร่ขายขนมมาการง Macaron ร้านขายเสื้อผ้า มีโรงมหรสพการแสดงระบำตอนกลางคืนที่Lido ร้ามาร์กแอนสเปนเซอร์ร้านขายเสื้อชุดกีฬา ปารีแซ็งแฌร์แมง หรืออื่นๆ
เลขที่90 ชั้นบนเป็นสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยด้วย เป็นย่านที่นักท่องเที่ยวมาชมตลอดเวลา ถนนนี้มีความยาวสองเมตรยาวลงไปจรดจตุรัส กงกอร์ด la place de la Concorde ที่ถนนนี้จะมีเสาติดป้ายโฆษณาการแสดงมหรสพ เรียกว่า โกลอน มอรืส
Colonne Morris (ได้เคยกล่าวมาก่อนแล้ว)
และถนนเลขที่ 55rue du Faubourg-Saint-Honoré ปารีสเขต16 เป็นวังที่พำนักของประธานาธิบดีฝรั่งเศสเรียกว่า Le palais Élysée เลอ ปาเลเอลีเซ่เดิมเป็นวังที่พระเจ้าหลุยส์ที่15 มอบให้สนมเอกคือla marquise de Pompadour พักปี1755 และจักรพรรดินโปเลียนที่หนึ่งสละบัลลังค์ที่วังแห่งนี้เมื่อวันที่ 22มิถุนายน 1815 และต่อมาใช้เป็นที่พำนักของฝรั่งเศสมาจั้งแต่ปี1873 ประธานาธิบดีฝรั่งเศสพำนักอยู่ที่วังนี้จำนวน 22 คนถึงในปจจุบันคือประธานาธิบดี François Hollande
ฟรองซัว โอลล็องด์
ราฟาเอล
ราฟาเอล (อังกฤษ: Raphael) หรือ รัฟฟาเอลโล ซานซีโอ ดา อูร์บีโน (อิตาลี: Raffaello Sanzio da Urbino ; พ.ศ. 2026-2063) เป็นจิตรกรชาวอิตาลีที่มีอาวุโสน้อยที่สุดในบรรดาจิตรกรผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา โดยมีอายุน้อยกว่าเลโอนาร์โด ดา วินชี 31 ปี และอ่อนกว่ามีเกลันเจโล บัวนาร์โรตี 8 ปี เมื่อ พ.ศ. 2051 ราฟาเอลได้เดินทางไปยังเมืองฟลอเรนซ์เพื่อศึกษางานของเลโอนาร์โด ดา วินชี และของมีเกลันเจโล ต่อมาในปี พ.ศ. 2055 ได้ไปอยู่ที่กรุงโรมและพากเพียรเขียนภาพเพื่อให้ทัดเทียมกับศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองท่านที่เขายกย่อง ราฟาเอลได้เขียนจิตรกรรมฝาผนังหลายชิ้นในนครวาติกัน ซึ่งถือกันว่าเป็นผลงานขั้นสูงสุดในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่สามารถรวมเอาความสงบนิ่งไว้กับความสมดุลได้อย่างกลมกลืน ราฟาเอลได้รับการแต่งตั้งเป็นสถาปนิกผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในปี พ.ศ. 2057 และมีส่วนในการวางผังเมืองกรุงโรมงานจิตรกรรมของราฟาเอลในระยะหลังมีความเรียบง่ายและมีความใหญ่โตมากขึ้น แต่ยังคงรักษาความมีชีวิตชีวาของงานยุคต้นของตนเองไว้ได้ งานของราฟาเอลที่แสดงถึงความงามของผู้หญิงนับได้ว่าเป็นผลงานที่มีอิทธิพลต่อศิลปินกลุ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น