D-Day

ความหมาย ดีเดย์-เมย์เดย์


D-Day ตัวดีแรก ย่อมาจากคำว่า Deliverance (ดีลิเวอแรนซ์) แปลว่าการมอบคืน ส่งคืน การปลดปล่อย

เมื่อใช้กับคำว่าเดย์ ก็หมายถึงวันที่ฝ่ายสัมพันธมิตรมอบอิสรภาพและเอกราชคืนแก่ประเทศที่ถูกเยอรมนียึดครองในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ถ้าจะจำให้ง่ายๆเข้าอีกนิด นึกถึงฉากเปิดหนังของภาพยนตร์เรื่อง Saving Private Ryan ก็แล้วกัน

ดีเดย์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ.1944 เมื่อกองทัพอเมริกันและสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งนอร์มังดีของฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญมากของสงครามตอนนั้น

เพราะหากสัมพันธมิตรตีคืนนอร์มังดี ซึ่งกองทหารเยอรมันที่ยึดไว้ได้เมื่อไร นั่นหมายถึงว่าฝ่ายสัมพันธมิตรจะเข้าบุกไล่กองทัพเยอรมนีให้ถอยร่นออกไปได้

การยกพลในวันนั้นนับเป็นการยกพลครั้งใหญ่ที่สุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งในที่สุดก็ลงเอยด้วยความปราชัยของฝ่ายเยอรมนี

ทางฝ่ายสัมพันธมิตรจึงเรียกวันประวัติศาสตร์นั้นว่า "ดี-เดย์"

โดยหลังจากนั้น ฝ่ายสัมพันธมิตรก็มีกำลังใจฮึกเหิมมาก และทิ้งบอมบ์ทัพเยอรมนีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งชนะสงครามในปี 1945

ส่วนคำที่คล้ายๆกันได้แก่ May Day "เมย์ เดย์" ตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี ถือเป็น "วันแรงงาน" ของผู้ใช้แรงงานทั่วโลก ส่วนที่อเมริกา แคนาดาและยุโรปตะวันตก จะนับเอาวันเดียวกันนี้เป็นเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิด้วย

แต่ may day "เมย์เดย์ เมย์เดย์" ที่เราได้ยินในหนังฉากที่นักบินหรือกัปตันเรือขอความช่วยเหลือนั้น มีที่มาอีกทาง แม้ว่าจะออกเสียงเหมือนกัน

จริงๆคำนี้ไม่เกี่ยวกับเดือนพฤษภาคมอะไร แต่มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า m'aidez ออกเสียงว่า เมเดซ์ แปลว่ามาช่วยฉันด้วย

(เพิ่มเติมข้อมูลวันดีเดย์....)

ประวัติของวันดีเดย์......

เหตุเกิดปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ดี-เดย์ (D-Day) คือวันที่กองทหารสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบก ที่แคว้นนอร์มังดี ตอนเหนือของฝรั่งเศส เพื่อปลดปล่อยฝรั่งเศสและประเทศยุโรปจากการยึดครองของเยอรมนี โดยยกพลขึ้นบกที่ชายหาด 5 แห่ง ของนอร์มังดีซึ่งขานรหัสว่า ยูทาห์ โอมาฮา โกลด์ จูโน และสอร์ด มีนายพลดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ เป็นผู้บัญชาการสูงสุด

6 มิถุนายน 1944 ป้อมปราการยุโรปของฮิตเลอร์ (Fortress Europe) ถูกโจมตีด้วยกำลังมหาศาลเท่าที่เคยมีมา เรือรบ 4,000 ลำ ลำเลียงทหารและยุทโธปกรณ์ ภาคอากาศ เครื่องบิน 11,000 ลำ โจมตีทิ้งระเบิดแนวป้องกันชายฝั่งอย่างหนัก ปืนเรือระดมยิงซ้ำ ขณะพลร่มโดดร่มลงภาคพื้นดิน เวลา 06.00 น. ทหารสัมพันธมิตรระลอกแรกยึดหัวหาด 4 แห่งได้โดยง่าย แต่ที่โอมาฮาเยอรมันโต้ตอบดุเดือด ความสูญเสียเกิดขึ้นมากมายก่อนภารกิจลุล่วง

จริงๆ แล้วเยอรมันรู้ล่วงหน้า แต่ไม่ทราบแน่ว่าจะยกพลขึ้นที่ใด เนื่องจากแนวชายทะเลของฝรั่งเศสด้านที่ติดกับอังกฤษนั้นยาวมาก ฮิตเลอร์เชื่อว่าจะเกิดขึ้นที่เมืองท่าคาเลซ์ ทางตอนเหนือซึ่งเป็นส่วนที่แคบที่สุดระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส แต่นายพลเออร์วิน รอมเมล แม่ทัพกลุ่มบีในประเทศฝรั่งเศส เชื่อว่าจะเกิดขึ้นบริเวณอื่น เขาสั่งการสร้างป้อมและบังเกอร์เรียงรายตามแนวชายฝั่ง เพิ่มจำนวนรังปืนกล เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนครก บนหาดสร้างสิ่งกีดขวางเรือที่เรียกว่าเม่นทะเลและงาแซง บวกกับการติดทุ่นระเบิดและกับระเบิดอีกจำนวนมาก รอมเมลเชื่อว่าชัยชนะของการต่อต้านการยกพลขึ้นบกจะอยู่ที่ชายหาด ใครยึดหาดได้จะเป็นผู้ชนะ แต่ฮิตเลอร์มองว่า

การรบขั้นแตกหักจะอยู่บนฝั่ง คือปล่อยให้พันธมิตรขึ้นฝั่งแล้วเยอรมันเข้าบดขยี้ จึงสั่งการให้วางกำลังส่วนใหญ่ไว้แนวหลัง พร้อมเข้าเสริมกำลังที่ป้องกันชายหาด รอมเมลจึงมีกองพลทหารราบ 38 กองพล วางกำลังตั้งแต่คาเลซ์ เหนือขึ้นไปทางฮอลแลนด์ และเลยลงไปถึงชายแดนสเปน ซึ่งเป็นระยะทางยาวมากเมื่อเทียบกับกำลังทหารจำนวนเท่านั้น กำลังทางอากาศก็มีเครื่องบินขับไล่เพียง 70 ลำ เครื่องบินทิ้งระเบิด 90 ลำ และเครื่องบินอื่นๆ 160 ลำ น้อยเกินไปที่จะรับมือกับฝูงบินพันธมิตรจำนวนมหาศาล

กองกำลังพันธมิตรมีทหารราบ 39 กองพล (สหรัฐ 20 อังกฤษ 3 แคนาดา 1 ฝรั่งเศสอิสระ 1 โปแลนด์ 1) เครื่องบินขับไล่กว่า 5,000 ลำ เครื่องร่อน 2,600 ลำ เรือรบและเรืออื่นๆ กว่า 6,000 ลำ รวมทหาร 2,000,000 นาย ชัยชนะของพันธมิตรได้มาบนความเสียหายยับเยินทั้งสองฝ่าย ชีวิตทหารหมดเปลืองเรือนล้าน

สำหรับคำ ดี-เดย์ D-Day เป็นรหัส D หมายถึง deliverrance การมอบคืน ดี-เดย์คือวันมอบคืนอิสรภาพให้แก่ประเทศที่เยอรมนีตียึด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ราฟาเอล

Les Articles Contractés

แคว้นปีการ์ดี picardie